น้อยหน่าฝ้ายเขียวเกษตร 2 เป็นไม้ผลที่มีสมรรถนะเชิงพาณิชย์ เพราะว่าเป็นจำพวกน้อยหน่าที่ปลูกได้ไม่ยาก ทนแล้ง ได้ผลผลิตเร็ว บังคับให้ออกดอกติดผลประโยชน์ง่าย รวมทั้งทุนการสร้างต่ำ เรียกได้ว่า ฝ้ายเขียวเกษตร 2 มีอัตราการเติบโตของลำต้นดี ได้ผลผลิตสูง และก็มีลักษณะเด่นต่างจากชนิดกิจการค้าเดิม เนื่องจากว่าฝ้ายเขียวเกษตร 2 มีกลิ่นหอมยวนใจ หวาน ซึ่งเป็นลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์ของน้อยหน่าประเภทฝ้าย มีเนื้อเนียนนุ่ม ติดผลง่าย ได้ผลดก ขนาดผลปานกลาง ซึ่งเป็นไซซ์ที่ตลาดอยาก เปลือกครึ้มชิดกันเป็นแผ่นไม่แยกตา จำนวนเนื้อมากมายเป็นที่พึงพอใจของคนซื้อ
jumbo jili
น้อยหน่า เป็นไม้ทรงพุ่มไม้ขนาดเล็ก มีบ้านเกิดในแถบร้อนของทวีปอเมริกากึ่งกลาง นำเข้ามาปลูกไว้ในประเทศแถบทวีปเอเชียคราวแรกโดยชาวประเทศสเปน รวมทั้งชาวประเทศโปรตุเกส ส่วนในประเทศไทยมีการนำเข้าน้อยหน่าทีแรกในยุคจังหวัดลพบุรีปัจจุบันนี้การ ปลูกน้อยหน่าในประเทศไทยมีอยู่หลายแบบร่วมกัน และก็มีชื่อเรียกไม่เหมือนกันในแต่ละแคว้น ตัวอย่างเช่น ภาคกึ่งกลาง เรียก น้อยหน่า ภาคทิศตะวันออก เรียก นอแฟ, มะนอแฟหรือมะแฟ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เรียก มักเขียบ ภาคใต้ เรียก น้อยแน่ ลาหนัง (จังหวัดปัตตานี) ชื่ออื่นๆเตียม, น้อยแน่, มะลอแน่, มะออแรง ส่วนราชอาณาจักรกัมพูชาเรียกน้อยหน่าว่า เตียบ
สล็อต
ลักษณะทางวิชาพฤกษศาสตร์
- ลำต้น
น้อยหน่าจัดเป็นไม้ผลยืนต้นผลัดใบ มีทรงพุ่มไม้ขนาดเล็ก ลำต้นแท้สูงโดยประมาณ 1 เมตร และก็จะแตกกิ่งก้านออกเป็นกิ่งหลัก กิ่งรอง กิ่งกิ่งก้านสาขา รวมทั้งกิ่งย่อย โดยจะแตกกิ่งอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำต่อจากลำต้นแท้ การแตกกิ่งจะไม่มีระเบียบ ลำต้น แล้วก็ทรงพุ่มไม้บางทีอาจสูงมากเกินไปกว่า 5 เมตร ลักษณะเปลือกลำต้นบาง ผิวเปลือกสากหยาบคาย สีน้ำตาลถึงดำ - ใบ
ใบน้อยหน่าจัดเป็นใบคนเดียว ออกเรียงสลับกันบนกิ่ง สีใบเมื่ออ่อนจะออกสีขาวผสมเขียว ใบแก่จะออกสีเขียวเข้มคละเคล้าน้ำตาล มีลักษณะใบเป็นรูปหอก ปลายใบแหลมหรือค่อนข้างจะเรียวแหลม ส่วนโคนใบก็มีลักษณะเป็นรูปลิ่ม เมื่อเอามาขยี้จะมีกลิ่นส่วนตัว - ดอก
ดอกน้อยหน่าจะแทงออกเป็นตาดอกตามกิ่ง อีกทั้งกิ่งแก่หรือส่วนของลำต้น ซึ่งชอบมีดอกในช่วงฤดูใบไม้ผลิภายหลังผลัดใบแล้ว หรือในตอนต้นหน้าฝน ข้างหลังได้รับความชุ่มชื้นหรือน้ำแล้ว ดอกของน้อยหน่าจะแทงออกเป็นกรุ๊ปๆละ 2-5 ดอก รอบๆจุดเดียวกัน ต้นน้อยหน่าขนาดกึ่งกลางหนึ่งต้นจะมีดอกราวๆ 1,000-1,500 ดอก
ดอกจัดเป็นดอกแบบบริบูรณ์เพศที่มีดอกเพศผู้ แล้วก็ดอกตัวเมียในดอกเดียวกัน ดอกมีสีน้ำตาลผสมขาว ดอกเกสรตัวผู้จะมีก้านช่อ รวมทั้งกระเปาะละอองเกสร รวมกันอยู่รอบเกสรตัวเมีย ที่มีรังไข่ 1 อัน การผสมเกสรจะผสมแบบผสมผ่าน เหตุเพราะเกสรมีความพร้อมเพรียงสำหรับการผสมไม่พร้อม ซึ่งการผสมเกสรจะติดดีในระยะเวลา 9.00-12.00 น. แล้วก็อีกตอน 14.30-17.30 น. มีระยะผลิดอกถึงดอกบานราว 31-45 วันขึ้นกับความอุดมสมบูรณ์ของดิน แล้วก็ต้นเหตุการดูแลและรักษา ดอกน้อยหน่าในระยะดอกตูมที่แล้วบานจะอยู่ได้ 3-4 วัน ซึ่งจะบานอีกทั้งช่วงเวลากลางวัน แล้วก็ค่ำคืนโดยดอกจะบานจากปลายกลีบสู่ส่วนโคนดอก เมื่อดอกบานสุดกำลังจะมองเห็นเกสรตัวเมีย รวมทั้งเกสรตัวผู้อย่างแจ่มแจ้ง การบานของดอกจะบานมากมายหรือน้อยขึ้นกับความชุ่มชื้น ถ้ามีความชุ่มชื้นสูงดอกจะบานมากมาย ส่วนอุณหภูมิต่ำ ดอกจะบานได้ดีมากว่าอุณหภูมิสูง - ผล
ผลมีลักษณะสำเร็จรวม มีต้นเหตุจากดอกเดียว แต่ว่ามีรังไข่หลายอัน ภายหลังที่ผสมเกสร แล้วก็เติบโตสักระยะจะมองเห็นมีเม็ดอยู่ในรังไข่ 1 เม็ด ในแต่ละรังไข่ โดยมีเนื้อของน้อยหน่าที่เป็นส่วนกินจะเป็นส่วนที่รุ่งเรืองที่ภายใน แล้วก็ฝาผนังของรังไข่จะเจริญก้าวหน้าไปเป็นเปลือก ซึ่งจะมีรูปร่าง และก็ขนาดของผลนานับประการตามชนิด และก็การดูแล ส่วนใหญ่ผลจะมีลักษณะกลมรี ขึ้นกับจำพวก และก็การดูแลและรักษา ผิวเปลือกน้อยหน่าจะมีลักษณะเป็นตานูน มีสีเขียว แล้วก็เขียวอ่อนปนเหลืองเมื่อสุก เนื้อจะมีลักษณะนุ่ม เปียกแฉะน้ำ มีรสชาติหวาน หอมสล็อตออนไลน์
การปลูกน้อยหน่า
การปลูกน้อยหน่านิยมนำมาปลูกด้วยการเพาะเม็ดเยอะที่สุด รองลงมาเป็นการปลูกจากกิ่งจำพวกในขณะที่ต้องการที่จะให้ผลเสมือนต้นแม่พันธุ์หรืออยากรักษาต้นแม่ให้เพื่อผลเอามาแพร่พันธุ์จากเม็ดต่อ
การเก็บผลิตผล
น้อยหน่าจะสามารถได้ผลได้เมื่อแก่ราว 2-3 ปี ขึ้นไป การเก็บผลิตผลของน้อยหน่า โดยธรรมดามีช่วงเวลาการเก็บตั้งแต่ดอกบานจนกระทั่งเก็บผลตอบแทน ราวๆ 120-125 วันjumboslot
ประโยช์จากน้อยหน่า
1.ช่วยต้านทานอนุมูลอิสระภายในร่างกาย
2.ช่วยบำรุงรักษาผิวพรรณ เส้นผม แล้วก็ดวงตา
3.น้อยหน่าคือผลไม้ที่มีไขมันต่ำ ก็เลยเหมาะกับคนที่กำลังลดหุ่นหรือลดหุ่น และก็รักษาสุขภาพ (แม้กระนั้นสำหรับคนที่กำลังป่วยเป็นโรคเบาหวานนับว่าเป็นข้องดเว้น)
4.ช่วยรักษาโรคโรคหอบหืด (วิตามินซี)
5.ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด (เส้นใย)
6.ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล (วิตามินบี 3)
7.ช่วยลดระดับความดันเลือด (โพแทสเซียม)
8.ช่วยบำรุงรักษาหัวใจให้มีสุขภาพดี ปกป้องการเกิดโรคหัวใจ
9.มีส่วนช่วยรักษาโรคโลหิตจาง
10.ช่วยสำหรับการย่อยอาการ ทำให้ถ่ายได้สบาย
11.ช่วยรักษาโรคไขข้อและก็โรคข้ออักเสบ (แมกนีเซียม)
12.ช่วยสร้างเสริมกระดูกและก็ฟันให้แข็งแรง (แมกนีเซียม)
13.ช่วยรักษาสมดุลของน้ำภายในร่างกาย (แมกนีเซียม)
14.ช่วยสนับสนุนการสร้างพลังงานภายในร่างกาย (วิตามินบี)
15.ช่วยสำหรับในการสร้างฮีโมโกลบิน (Hemoglobin) (ทองแดง)
16.ช่วยลดการเสี่ยงต่อการที่ทารกทุพพลภาพโดยกำเนิด (โฟเลต)
17.แก้งูสวัด
18.น้อยหน่ามีคุณประโยชน์ใช้แก้ฝีในคอslot