น้อยหน่าฝ้ายครั่ง มีเนื้อสีขาวอมชมพู มีกลิ่นหอมยวนใจ รสหวาน เปอร์เซ็นต์น้ำตาล เฉลี่ย 17.2% เม็ดสีดำวาว เมื่อแห้งเป็นสีน้ำตาล ปริมาณเม็ดเฉลี่ยต่อผล 50 เม็ด การสุกราวๆ 24 ชั่วโมง
jumbo jili
น้อยหน่า เป็นไม้ทรงพุ่มไม้ขนาดเล็ก มีบ้านเกิดในแถบร้อนของทวีปอเมริกากึ่งกลาง นำเข้ามาปลูกลงในประเทศแถบทวีปเอเชียหนแรกโดยชาวประเทศสเปน แล้วก็ชาวประเทศโปรตุเกส ส่วนในประเทศไทยมีการนำเข้าน้อยหน่าหนแรกในยุคจังหวัดลพบุรีเดี๋ยวนี้การ ปลูกน้อยหน่าในประเทศไทยมีอยู่หลายประเภทร่วมกัน และก็มีชื่อเรียกแตกต่างในแต่ละแคว้น ตัวอย่างเช่น ภาคกึ่งกลาง เรียก น้อยหน่า ภาคทิศตะวันออก เรียก นอแฟ, มะนอแฟหรือมะแฟ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เรียก มักเขียบ ภาคใต้ เรียก น้อยแน่ ลาหนัง (จังหวัดปัตตานี) ชื่ออื่นๆเตียม, น้อยแน่, มะลอแน่, มะออแรง ส่วนราชอาณาจักรกัมพูชาเรียกน้อยหน่าว่า เตียบ
สล็อต
ลักษณะทางวิชาพฤกษศาสตร์
- ลำต้น
น้อยหน่าจัดเป็นไม้ผลยืนต้นผลัดใบ มีทรงพุ่มไม้ขนาดเล็ก ลำต้นแท้สูงราว 1 เมตร รวมทั้งจะแตกกิ่งก้านออกเป็นกิ่งหลัก กิ่งรอง กิ่งกิ่งก้านสาขา แล้วก็กิ่งย่อย โดยจะแตกกิ่งอยู่ในระดับที่ถือว่าต่ำต่อจากลำต้นแท้ การแตกกิ่งจะไร้ระเบียบ ลำต้น และก็ทรงพุ่มไม้บางทีอาจสูงเกินไปกว่า 5 เมตร ลักษณะเปลือกลำต้นบาง ผิวเปลือกสากหยาบคาย สีน้ำตาลถึงดำ - ใบ
ใบน้อยหน่าจัดเป็นใบผู้เดียว ออกเรียงสลับกันบนกิ่ง สีใบเมื่ออ่อนจะออกสีขาวคละเคล้าเขียว ใบแก่จะออกสีเขียวเข้มคละเคล้าน้ำตาล มีลักษณะใบเป็นรูปหอก ปลายใบแหลมหรือออกจะเรียวแหลม ส่วนโคนใบก็มีลักษณะเป็นรูปลิ่ม เมื่อเอามาขยี้จะมีกลิ่นส่วนตัว - ดอก
ดอกน้อยหน่าจะแทงออกเป็นตาดอกตามกิ่ง อีกทั้งกิ่งแก่หรือส่วนของลำต้น ซึ่งชอบมีดอกในช่วงฤดูใบไม้ผลิภายหลังผลัดใบแล้ว หรือในตอนต้นหน้าฝน ข้างหลังได้รับความชุ่มชื้นหรือน้ำแล้ว ดอกของน้อยหน่าจะแทงออกเป็นกรุ๊ปๆละ 2-5 ดอก รอบๆจุดเดียวกัน ต้นน้อยหน่าขนาดกึ่งกลางหนึ่งต้นจะมีดอกราวๆ 1,000-1,500 ดอก
ดอกจัดเป็นดอกแบบบริบูรณ์เพศที่มีดอกเพศผู้ และก็ดอกตัวเมียในดอกเดียวกัน ดอกมีสีน้ำตาลผสมขาว ดอกเกสรตัวผู้จะมีก้านช่อ แล้วก็กระเปาะละอองเกสร รวมกันอยู่รอบเกสรตัวเมีย ที่มีรังไข่ 1 อัน การผสมเกสรจะผสมแบบผสมผ่าน ด้วยเหตุว่าเกสรมีความพร้อมเพรียงสำหรับเพื่อการผสมไม่พร้อม ซึ่งการผสมเกสรจะติดดีในช่วง 9.00-12.00 น. รวมทั้งอีกตอน 14.30-17.30 น. มีระยะผลิดอกถึงดอกบานราว 31-45 วันขึ้นกับความอุดมสมบูรณ์ของดิน รวมทั้งสาเหตุการรักษา ดอกน้อยหน่าในระยะดอกตูมที่แล้วบานจะอยู่ได้ 3-4 วัน ซึ่งจะบานอีกทั้งตอนกลางวัน แล้วก็ช่วงเวลากลางคืนโดยดอกจะบานจากปลายกลีบสู่ส่วนโคนดอก เมื่อดอกบานเต็มกำลังจะมองเห็นเกสรตัวเมีย และก็เกสรตัวผู้อย่างแจ่มแจ้ง การบานของดอกจะบานมากมายหรือน้อยขึ้นกับความชุ่มชื้น แม้มีความชุ่มชื้นสูงดอกจะบานมากมาย ส่วนอุณหภูมิต่ำ ดอกจะบานได้ดียิ่งไปกว่าอุณหภูมิสูง - ผล
ผลมีลักษณะได้ผลสำเร็จรวม มีต้นเหตุมาจากดอกเดียว แต่ว่ามีรังไข่หลายอัน ภายหลังที่ผสมเกสร รวมทั้งเติบโตสักระยะจะมองเห็นมีเม็ดอยู่ในรังไข่ 1 เม็ด ในแต่ละรังไข่ โดยมีเนื้อของน้อยหน่าที่เป็นส่วนกินจะเป็นส่วนที่ก้าวหน้าที่ภายใน แล้วก็ฝาผนังของรังไข่จะรุ่งเรืองไปเป็นเปลือก ซึ่งจะมีรูปร่าง และก็ขนาดของผลนานับประการตามจำพวก แล้วก็การดูแล ส่วนมากผลจะมีลักษณะกลมรี ขึ้นกับชนิด รวมทั้งการดูแลและรักษา ผิวเปลือกน้อยหน่าจะมีลักษณะเป็นตานูน มีสีเขียว แล้วก็เขียวอ่อนปนเหลืองเมื่อสุก เนื้อจะมีลักษณะนุ่ม เปียกน้ำ มีรสชาติหวาน หอมสล็อตออนไลน์
การปลูกน้อยหน่า
การปลูกน้อยหน่านิยมนำมาปลูกด้วยการเพาะเม็ดสูงที่สุด รองลงมาเป็นการปลูกจากกิ่งชนิดในระหว่างที่อยากให้ผลเสมือนต้นแม่พันธุ์หรืออยากได้รักษาต้นแม่ให้เพื่อผลเอามาแพร่พันธุ์จากเม็ดต่อ
การเก็บผลิตผล
น้อยหน่าจะสามารถได้ผลได้เมื่อแก่ราว 2-3 ปี ขึ้นไป การเก็บผลิตผลของน้อยหน่า โดยปกติมีช่วงเวลาการเก็บตั้งแต่ดอกบานจนกระทั่งเก็บผลตอบแทน ราว 120-125 วันjumboslot
คุณประโยชน์ซึ่งมาจากน้อยหน่า
1.ช่วยต้านทานอนุมูลอิสระภายในร่างกาย
2.ช่วยบำรุงรักษาผิวพรรณ เส้นผม และก็ดวงตา
3.น้อยหน่าคือผลไม้ที่มีไขมันต่ำ ก็เลยเหมาะกับคนที่กำลังลดหุ่นหรือลดน้ำหนัก แล้วก็รักษาสุขภาพ (แม้กระนั้นสำหรับคนป่วยด้วยโรคเบาหวานนับว่าเป็นข้องดเว้น)
4.ช่วยรักษาโรคโรคหอบหืด (วิตามินซี)
5.ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด (เส้นใย)
6.ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล (วิตามินบี 3)
7.ช่วยลดระดับความดันเลือด (โพแทสเซียม)
8.ช่วยบำรุงรักษาหัวใจให้มีร่างกายแข็งแรง คุ้มครองปกป้องการเกิดโรคหัวใจ
9.มีส่วนช่วยรักษาโรคโลหิตจาง
10.ใบน้อยหน่ามีคุณประโยชน์ช่วยรักษาโรคโรคมะเร็งแล้วก็เนื้องอก (ใบ)
11.ช่วยรักษาโรคไขข้อและก็โรคข้ออักเสบ (แมกนีเซียม)
12.ช่วยสร้างเสริมกระดูกรวมทั้งฟันให้แข็งแรง (แมกนีเซียม)
13.ช่วยรักษาสมดุลของน้ำภายในร่างกาย (แมกนีเซียม)
14.ช่วยสนับสนุนการสร้างพลังงานภายในร่างกาย (วิตามินบี)
15.ช่วยสำหรับการสร้างฮีโมโกลบิน (Hemoglobin) (ทองแดง)
16.ช่วยลดการเสี่ยงต่อการที่เด็กแรกเกิดทุพพลภาพโดยกำเนิด (โฟเลต)slot